3 วิธีที่ช่วยให้เด็กๆ ในเอเชียแปซิฟิกปลอดภัยยิ่งขึ้นบนโลกออนไลน์

ในฐานะพ่อซึ่งมีลูก 2 คนที่โตมาในยุคดิจิทัล และในฐานะมืออาชีพที่ทำงานด้านความปลอดภัยบนโลกออนไลน์มานานกว่า 17 ปี ผมได้เห็นว่าเทคโนโลยีมีผลกระทบต่อการเลี้ยงลูกเป็นอย่างมาก

แม้ว่าผมและผู้ปกครองหลายๆ คนในเอเชียแปซิฟิกต่างรู้ดีว่าเทคโนโลยีมีประโยชน์ต่อการเติบโตและการเรียนรู้ของเด็กๆ แต่เราก็ตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเด็กๆ พบเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับวัยและกลโกงออนไลน์ต่างๆ ข่าวดีก็คือ จากการสำรวจเรื่องความปลอดภัยบนโลกออนไลน์สำหรับเด็กและครอบครัวในเอเชียแปซิฟิกของเรา พบว่าผู้ปกครองในเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ ( 78% ) รู้สึกมั่นใจในการพูดคุยกับบุตรหลานเกี่ยวกับความปลอดภัยบนโลกออนไลน์

การใช้การควบคุมโดยผู้ปกครอง
การสำรวจในปีนี้แสดงให้เห็นว่าปัญหาด้านความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ที่พบบ่อยที่สุดสำหรับเด็กๆ คือการพบเห็นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งพบว่า 61% ของเด็กๆ ประสบปัญหานี้อย่างน้อย 1 ครั้ง (เทียบกับ 54% ในปีที่ผ่านมา) ตามมาด้วยการพบเห็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง โฆษณาหลอกลวงหรือสแปม และเนื้อหาที่มีความรุนแรง

ผู้ปกครองสามารถเปิดใช้งานการจำกัดเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยบน Google Play และ Google Search ผ่าน Family Link ได้ อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีประโยชน์คือ ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย (SafeSearch) ซึ่งจะ เปิดเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นเมื่อผู้ที่ลงชื่อเข้าใช้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และช่วยกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ นอกจากนี้ การตั้งค่าการเบลอแบบใหม่ ในฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย ซึ่งตอนนี้เปิดให้ทุกคนใช้งานแล้ว จะช่วยเบลอรูปภาพโจ่งแจ้ง เช่น เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ หรือเนื้อหาที่มีความรุนแรงหรือสยดสยอง ที่ปรากฏในผลการค้นหาของ Google Search ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการตั้งค่าเริ่มต้น

การปรับเปลี่ยนกฎกติกาพื้นฐานตามเวลา
เมื่อเด็กๆ โตขึ้น ผู้ปกครองอาจจำเป็นต้องปรับกฎกติกาพื้นฐานสำหรับการใช้สื่อดิจิทัล จากการสำรวจ พบว่า 69% ของผู้ปกครองในเอเชียแปซิฟิกวางแผนที่จะเปลี่ยนกฎระเบียบภายในบ้านเมื่อเวลาผ่านไป และ 49% จะอนุญาตให้บุตรหลานใช้เวลาท่องโลกออนไลน์มากขึ้นเมื่อพวกเขามีอายุที่มากขึ้น ผู้ปกครองเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการศึกษาของบุตรหลาน ช่วยให้เด็กๆ ได้สำรวจความสนใจของตัวเอง และค้นพบเนื้อหาด้านการศึกษาคุณภาพสูง

นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังได้เรียนรู้วิธีการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ทันตามยุคสมัย ตัวอย่างเช่น แอปอย่าง Family Link ช่วยให้ผู้ปกครองตั้งกฎกติกาพื้นฐานสำหรับการใช้สื่อดิจิทัลและจัดการเวลาอยู่หน้าจอของบุตรหลานได้ง่ายๆ

การสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการสำรวจโลกออนไลน์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ผมชอบใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียนของลูกๆ โดยมักจะใช้แอปและเครื่องมือต่างๆ ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กและวัยรุ่นโดยเฉพาะ เช่น YouTube Kids ที่ช่วยให้เด็กๆ สำรวจ YouTube ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และช่วยให้ผู้ปกครองสร้างประสบการณ์ใช้งานที่เหมาะสมกับบุตรหลานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ประสบการณ์การใช้งานภายใต้การควบคุมดูแลบน YouTube ก็มีประโยชน์เช่นกัน โดยเหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ตัดสินใจว่าบุตรหลานของตนพร้อมที่จะสำรวจเนื้อหาที่มีอยู่อย่างมากมายบน YouTube ผ่านบัญชี Google ที่มีการควบคุมดูแลแล้ว

นอกจากนี้ ผู้ปกครองทั่วเอเชียแปซิฟิกยังมีความกังวลว่าบุตรหลานของตนแชร์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดียมากเกินไป ( 45% ของเด็กๆ มีการแชร์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดียมากเกินไปอย่างน้อย 1 ครั้ง) และได้รับความสนใจที่ไม่พึงประสงค์จากคนแปลกหน้า ( 38% ของเด็กๆ เคยเจอเหตุการณ์นี้อย่างน้อย 1 ครั้ง) ด้วยเหตุนี้ นอกเหนือจากการใช้เทคโนโลยีที่มีการรักษาความปลอดภัยในตัวแล้ว การให้ความรู้แก่เด็กๆ ผ่านแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น หลักสูตร Be Internet Awesome ที่ให้ความรู้ด้านดิจิทัลฟรีสำหรับเด็ก ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน

การเปิดรับเทคโนโลยีโดยมีเกราะป้องกันเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ และการช่วยให้เด็กๆ ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเลี้ยงดูบุตรหลานในยุคดิจิทัล ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกคน เราสามารถช่วยให้ลูกหลานของเราปลอดภัยและเติบโตในโลกออนไลน์ได้